วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เพศศึกษาคือ

มีคนให้ความหมายคำว่า เพศศึกษา กันไว้มากมายเลยคะ แต่ควมหมายที่เป็นทางการ  เพศศึกษา (sexuality education) คือ กระบวนการต่อเนื่องของชีวิตในการได้มาซึ่งข้อมูล การปลูกฝังทัศนคติ ความเชื่อ และคุณค่าของเอกลักษณ์ ความสัมพันธ์ และความรักเชิงพิศวาท มีสาระเกี่ยวกับการพัฒนาการทางเพศ สุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ความรักใคร่ความปรารถนาภาพพจน์ในร่างกายตัวเอง และบทบาททางเพศ   'เพศ'ศึกษา จึงนำเสนอและค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับระบบชีววิทยาที่เกี่ยวกับเพศ สังคมวัฒนธรรม จิตใจ และวิญญาณที่เกี่ยวกับ ‘เพศ’ ของมนุษย์ นั่นเองคะ

เพศสัมพันธ์คืออะไร

เพศสัมพันธ์เป็นขั้นตอนหนึ่งของการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากปัจจัย ทางธรรมชาติ ของร่างกายเพื่อการสืบเผ่าพันธุ์ของมนุษย์นั้นเอง เมื่อมีการร่วมเพศกันจนถึงจุดสุดยอด ตัวอสุจิของชายหนุ่ม ก็หลั่งออกมาภายในช่องคลอดของหญิงสาว จากนั้น ตัวอสุจิจะแหวกว่ายเข้าไปในมดลูกเพื่อไปพบกับ"ไข่" ของหญิงสาว ตัวอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียง 1 ตัว สามารถไชเข้าไปภายในไข่ได้ และผสมกับไข่เกิดเป็นตัวอ่อน ของเด็กเราเรียกการผสมระหว่างตัวอสุจิและไข่นี้ว่า การปฏิสนธิ"

เพราะเพศสัมพันธ์ ทำให้มีการตั้งครรภ์ และกำเนิดชีวิตใหม่ขึ้นมาขบวนการเช่นนี้จะพร้อมที่ จะทำงานได้เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น นั้นคือ เมื่อหญิงสาวเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรก และผู้ชายเริ่มมีการหลั่งน้ำอสุจิ ในขณะหลับที่เรียกกันว่าฝันเปียกนั่นเอง ตามปกติคนเราจะมีเพศสัมพันธ์ที่สังคมยอมรับได้ก็ต่อเมื่อมีการตกลง ปลงใจอยู่ร่วมกันเป็นสามี ภรรยา หรือ เพราะจะเกิดผลตามมาอีกมากมาย เช่น การตั้งครรภ์ ในวัยเรียน หรือขณะที่ยังไม่พร้อมเกิดโรคติดเชื้อทางเพศการถูกมองอย่างดูถูกของสังคม การเลิกรากันอย่างรวดเร็ว และถ้าลงเอยด้วยการมีลูกก่อนอายุ 20 ปี มักจะพบว่ามีปัญหาในการเลี้ยงลูกมีปัญหาในชีวิตครอบครัว และมักหย่าร้างแยกทางกัน ในที่สุดที่สำคัญคือวัยรุ่นจะเสียโอกาสในการศึกษา ในการเรียนรู้ชีวิตในวัยรุ่น และพลาดโอกาสที่จะมีอนาคตที่มีความสุข

รักคือ

มนุษย์สามารถให้นิยามคำว่ารักได้ต่างๆ นานา ดังนี้...

1.
รักคือความเข้าใจ รักคือยอมอภัยทุกอย่าง อภัยให้กัน...โอ้โห คนที่ให้นิยามหยั่งงี้แสดงว่า เป็นแม่พระ หรือไม่ก็พ่อพระตัวจริงแฮะ

2.
รักคือเธอกับฉัน เป็นเรื่องของคน 2 คน ซึ่งบุคคลภายนอกหากมองไปที่คนคู่นี้ ก็ยากที่จะเก็ต (เข้าใจ) นั่นแหละรัก...โธ่ อยากบอกว่า รักเป็นเรื่องส่วนตัวของคนคู่นึงก็บอกมาเหอะ!

3. รักคือสีชมพูเวลาอยู่ใกล้ๆ เธอแล้วใจ (ฉัน) มันเต้นตึกตักๆๆ เป็นจังหวะรุมบ้า, ชะชะช่า และแทงโก้ผสมปนเปกันจนวุ่น และฉันรู้ว่าการเต้นของหัวใจคราวนี้ ไม่ใช่จังหวะปกติแน่นอน....ขอยืนยัน จะนอนยันด้วยก็ได้ ไม่ว่าไร 555

4.
รักทำให้มนุษย์เสียสมาธิ, ขาดความเชื่อมั่น และขลาดกลัว แต่ในทางกลับกันสิ่งที่ตามมาหลังจากรักไปแล้วกลับดียิ่งกว่า กล่าวคือ มีอีกคนเข้ามาทดแทนและช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตของฝ่ายที่มีรัก ดังนั้น ความกล้าและความมั่นใจจึงกลับคืนสู่คนนั้นอย่างมีเหตุมีผล จนคุณตระหนักว่า ชีวิตของคุณไม่ใช่เรื่องบ้าบอคอแตกและไร้สาระอีกต่อไป นั่นแหละที่เรียกกันว่า อินเลิฟล่ะ

5.
ไม่รู้หรอกว่า รักคืออะไร? รู้แต่ว่า รักไม่เคยเปลี่ยนแปลงละกัน อุ้ย จะบอกว่า รักยืนยงคงกระพันสินะ.....ขอให้จริง ขอให้จริง เพี้ยง!

6. รักคือการเรียนรู้ของคน 2 คน ถ้าเค้าพร้อม เราก็พร้อม...โอ้ลั่นล่า

7. รักคือแสงสว่างของชีวิต เมื่อฉันและเธอเคียงคู่อยู่ด้วยกันตลอดไป โอมมะรึกกึกกึ๋ย ขอให้รักนี้ไม่ใช่ฝันกลางวัน หรือฝันเลื่อนลอยทีเถิ้ด

8. รักคือการเป็นคนรักที่ดีให้กับ "คนที่เรารัก"....แต่อะไรที่พลั้งเผลอทำไม่ดีไปนิดหน่อย ก็ขอให้ดาร์ลิ่งช่วยอภัยให้ด้วยนะคนดี....มีงี้ด้วย?

9.
รักคือไม่เคยหวั่นไหวไม่เจ้าชู้ แต่ขอหยุดที่เธอเพียงคนเดียว ก็มีสุขแล้ว

10.
ความรักไม่ใช่การคิดแต่จะเอาชนะคะคานกัน ความรักไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว, ไม่ใช่เกลียด "ในสิ่งที่เค้าเป็น" ตรงกันข้าม เราควรรักในสิ่งที่เค้าเป็น และอย่าไปเปลี่ยนแปลงตัวตนของเค้าให้เป็น "คนในแบบที่เราต้องการ" ต่างหากล่ะ....ล้ำลึกและหนักแน่นจ้ะ

11. รักคือวิกฤติของชีวิตที่ทำให้เรามารักกันไม่ทันไร ก็ต้องจากกันซะและ! แต่ยังไม่ได้บอกซะหน่อยนะ ว่าคู่นี้เค้าจากกันเพราะอะไร? อย่าเพิ่งตีโพยตีพายว่า คู่นี้สงสัยจากกันไม่ดีแหงเลยไปซะก่อน เพราะคนรักกันเห็นจากกันทั้งๆ ที่ยังเลิฟก็ถมเถไป

12. ความรักทำให้เราอยากมีเวลาส่วนตัว เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่เรารัก...หวานซ้า

13. ความรักมีอยู่กระจัดกระจาย ถ้าคุณไม่ปิดตาปิดหูปิดจมูกของตัวเองซะอย่าง คุณก็จะเจอความรักสักวันแน่ๆ

14.
เชื่อว่าความรักเกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ดังนั้น หากจะรักก็รักไปเลย ไม่คำนึงถึงเหตุผลหรืออะไรทั้งสิ้น ขออย่างเดียว ถ้ารักก็ช่วยบอกกันหรือแสดงออกให้รู้ ไม่ใช่ทำเป็นอ้ำๆ อึ้งๆ หรือปล่อยให้อีกฝ่ายเก็บไปคิดเอง, ตีความเอาเองแล้วจะดีหรือจ๊ะ? ข้อนี้เป็นไอเดียของน้องนุ่น กรุงเทพชวนให้ไปคิดต่อ หรือชวนสยองก็ไม่รู้ดิ่ อิอิ

15. รักคือความเป็นมิตรบวกด้วยความเข้าใจอันดี ผสมกับการไม่ระแวงกัน อย่างไร้สติ รวมทั้งไม่ "หูเบา" ฟังใครเค้าพูดถึงแฟนเราไม่ดีอย่างโง้นอย่างงี้ก็อย่าปักใจเชื่อ....โอ้ มายเดียร์ เธอต้องหัดใส่ตุ้มหูไว้ซะมั่งแล้วล่ะ สุดท้าย หากรักกันจริงก็อย่าหลอกให้หลงนะฮ้า